ปัจจุบัน มิน พีชญา สวมชุดนักโทษ อารมณ์ของเธอในคุกและสุขภาพถูกเปิดเผยโดยทนายความของเธอ ครอบครัวยังไม่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมชม

มิน พีชญา ดาราสาวชื่อดัง ปัจจุบันสวมชุดพนักงาน หลังถูกควบคุมตัวในสถานกักกัน ตามข้อมูลจากทนายความของเธอ อาการในตำนานของมินในคุกไม่แน่นอน และเธอกำลังเผชิญกับความเจ็บป่วยที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานมาก่อน การคุมขังครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายของเธอมากนัก แต่ยังทำให้สภาพจิตใจของเธอรุนแรงขึ้นอีกด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่า ครอบครัวของเธอยังคงไม่สามารถมาเยี่ยมเธอได้ ซึ่งเพิ่มความห่วงใยให้กับญาติและเพื่อนของมิน บรรดาผู้ที่ห่วงใยเธอหวังว่าสถานการณ์นี้จะดีขึ้นในไม่ช้า เพื่อที่เธอจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น

ไม่เหมือนใคร: บริษัทจีนและไทยกำหนดให้ผู้สมัครงานต้องสวมหน้ากากอนามัย จะได้ไม่ต้องตัดสินคนนอก

บริษัทแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ได้รับการยกย่องจากชาวเน็ตหลังจากที่พวกเขาขอให้ผู้สมัครงานทุกคน รวมถึงผู้สัมภาษณ์งานใส่หน้ากาก เพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติจากรูปลักษณ์ภายนอก เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทขนส่งสินค้า Chengdu Ant Logistics ได้กลายเป็นหัวข้อข่าวบนโลกออนไลน์จากวิดีโอการสัมภาษณ์งานของแผนก HR ของบริษัทที่แตกต่างไม่เหมือนใคร คลิปสั้น ๆ นี้ถูกถ่ายโดยผู้สมัครงานคนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มีผู้สมัครงานหลายคนกำลังรอสัมภาษณ์งานและทุกคนก็ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าตนเองทั้งหมด และผู้ให้สัมภาษณ์งานก็ใส่หน้ากากด้วยเช่นกัน บริษัทขนส่งของจีนกล่าวว่า วิธีการสรรหาบุคลากรที่แปลกประหลาดนี้ถูกนำมาใช้เพื่อลดความเครียดของผู้สมัครงาน และเพื่อเน้นย้ำว่า พวกเขาให้คุณค่ากับความสามารถส่วนบุคคลมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก หากคุณมองไม่เห็นหน้าตาของผู้สมัคร ก็จะไม่มีอคติต่อรูปลักษณ์ของพวกเขาอีกต่อไป ในขณะที่ชาวเน็ตส่วนมากต่างชื่นชมบริษัทอย่างมาก และหลายคนอยากสัมภาษณ์งานกับบริษัทที่ให้โอกาสผู้คนเช่นนี้ “ในฐานะที่ผมเป็นโรคกลัวการเข้าสังคม ผมคงสนุกกับการสัมภาษณ์งานแบบนี้มาก” ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าว “นี่คือความเท่าเทียมที่แท้จริง คนหน้าตาดีจะไม่ได้เปรียบอีกต่อไป”…

“บอสพอล”รันวงการ ติดไมค์ไว้ใน “แฮร์พีชและเป้ากางเกง”

ผลงานของ “บอสพอล” สร้างความตื่นตระหนกให้กับสาธารณชนเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อมีข้อมูลปรากฏว่าเขาได้ติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังไว้ที่เส้นผมและส่วนต่างๆ ของร่างกาย สิ่งนี้นำไปสู่การถกเถียงอย่างดุเดือดหลายครั้งเกี่ยวกับจริยธรรมและความโปร่งใสในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งความสัมพันธ์ส่วนตัวและทางอาชีพจะได้รับประโยชน์อย่างง่ายดาย การกระทำของ “บอสพอล” ไม่เพียงแต่ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสื่อมเสียเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขาตั้ง คำถามถึงความจริงและเป้าหมายเบื้องหลังเกมดังกล่าวอีกด้วย นี่เป็นเทคนิคในการควบคุมความคิดเห็นของประชาชนหรือเป็นกลวิธีในการส่งเสริมการควบคุมผู้ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเขาหรือไม่? คำถามนี้ยังคงน่ารำคาญและได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากผู้คนต้องการคำตอบที่ชัดเจนและพยายามทำงาน

ยึดทรัพย์ “บอส” เพิ่มอีก 89 รายการ 144 ล้านบาท

เพิ่งประกาศผลสอบสวนกระแสเงินสดของ 3 “มหาเศรษฐี” ในโลกศิลปะ เผย “บอสกัน” รับเงินมากที่สุดเกือบ 80 ล้านบาท สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สั่งจัดเก็บทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 89 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 144 ล้านบาท คดีนี้ยิ่งสร้างความกังวลต่อสาธารณะมากขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจและกิจกรรมทางการเงินของผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิง ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับที่มาและความโปร่งใสของสถาบันการเงิน มีการเปิดผลตรวจเส้นทางเงินของ 3 บอสดารา พบ “บอสกันต์” รับเงินมากที่สุดเกือบ 80 ล้านบาท ปปง.มีคำสั่งยึดทรัพย์สินเพิ่มอีก 89 รายการ มูลค่าประมาณ 144 ล้านบาท…

มหากาพย์ “ดิไอคอน” ที่สุดแล้วแล้วมีอะไรจริงบ้าง?

เหตุการณ์ดราม่าที่เกิดขึ้นรอบ “The Icon” ได้สร้างความคิดเห็นของสาธารณชนที่มีชีวิตชีวา ทำให้เราตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลาถึงความถูกต้องของเรื่องราวนี้ นับตั้งแต่รายงานฉบับแรกปรากฏขึ้น ชุดข้อมูลและข้อความที่ขัดแย้งกันก็ได้รับการเผยแพร่ แต่การเปิดเผยที่ซ่อนไว้แต่ละ รายการดูเหมือนจะทำให้งานซับซ้อนและยากต่อการวิเคราะห์ ความสม่ำเสมอระหว่างทั้งสองฝ่าย พร้อมด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แพร่กระจายไปทั่ว ไม่เพียงแต่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของสาธารณชน แต่ยังทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความถูกต้องของสิ่งที่กำลังประกาศอยู่ หลายคนเริ่มสงสัยว่าเรื่องราวของ “The Icon” นั้นเป็นเรื่องจริงตามที่นำเสนอหรือไม่ หรือเป็นเพียงเรื่องราวที่สับสนวุ่นวายของเรื่องราวที่มีการโต้เถียงและยังไม่ได้รับการแก้ไข ยิ่งมีการเปิดเผยข้อมูลมากเท่าไร ความจริงก็จะยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเท่านั้น และนั่นทำให้ประชาชน ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะที่แท้จริงของงานอีกด้วย ความสนใจของทุกคนไม่ได้หยุดอยู่ที่สิ่งที่รู้เท่านั้น แต่ยังปรารถนาที่จะเห็นการสิ้นสุดที่ยุติธรรมและโปร่งใสของเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจนี้

แปลกไทย ผู้ชายกลัวผู้หญิงมากจนขังตัวเองอยู่ในบ้านมา 55 ปี

ชายชาวแอฟริกันวัย 71 ปี เลือกที่จะอาศัยอยู่ในบ้านที่โดดเดี่ยว ถูกล้อมรอบด้วยรั้วสูง 15 ฟุต มานานกว่าครึ่งศตวรรษ เนื่องจากเขาหวาดกลัวการใกล้ชิดกับผู้หญิง ย้อนกลับไปตอนที่ คัลลิกส์เต เอ็นแซมวิตา อายุ 16 ปี เป็นเด็กหนุ่มที่หวาดกลัวผู้หญิงอย่างมาก เขาทนไม่ได้ที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในสังคมกับเพศตรงข้าม นั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจสร้างรั้วไม้ล้อมรอบบ้านเล็ก ๆ ของเขา และไม่เคยก้าวออกจากบ้านเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในทางกลับกัน ฝ่ายผู้หญิงในชุมชนของเขากลับไม่ได้มองว่าเขาน่ารังเกียจแต่อย่างใด เนื่องจากชายหนุ่มผู้นี้ไม่กล้าก้าวออกมาจากบ้าน ฝ่ายผู้หญิงจึงเลือกที่จะให้ความช่วยเหลือเขา ด้วยการโยนข้าวของที่จำเป็น เช่น อาหารและเสื้อผ้า เข้าไปในพื้นที่บ้าน แม้ว่าเขาจะไม่เคยเปิดประตูให้พวกผู้หญิง แต่เขาก็ใช้สิ่งของที่พวกเธอมอบให้เสมอ หญิงคนหนึ่งกล่าวว่า “น่าแปลก…

เสวยสุข.บนความทุกข์คนอื่น “พลอย อัยดา” ภรรยา “กันต์ กันตถาวร” โดนขุดขายคอร์สเรียนการเป็นเศรษฐี

“เสวยสุขบนความทุกข์ของคนอื่น” เป็นวลีที่สังคมออนไลน์กล่าวถึงกรณี “พลอยอัยดา” ภรรยาของ “กันต์ กันตถาวร” หลังจากที่พบว่าเธอ ขายกุญแจ เรียนรู้ที่จะ รวย เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการอภิปรายในที่สาธารณะ หลายคนเชื่อว่าธุรกิจหลักสูตรเสริมคุณค่านั้นไม่มีสาระสำคัญและสามารถใช้ประโยชน์จากความยากลำบากของผู้อื่น ทำให้เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลักสูตรเหล่านี้ ดูวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่นี่

“หนุ่ม กรรชัย” – “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายแจ้งความเอาผิด “ดิ ไอคอนกรุ๊ป” ลั่นถ้า “บอสพอล” อยากออกรายการ ก็ยินดี ด้าน “บอย ปกรณ์” แสดงจุดยืนอยู่ข้างผู้เสียหาย

“หนุ่มกรรชัย” และ “กันจอมพลัง” รวมตัวผู้เสียหายแจ้งความฟ้อง “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” พร้อมแถลงหนักแน่นพร้อมต้อนรับ “บอสพอล” ออนแอร์หากอยากเผชิญเรื่อง ขณะเดียวกัน “บอย ปกรณ์” ได้แสดงจุดยืนเคียงข้างผู้เสียหายอย่างเปิดเผย แสดงความเห็นอกเห็นใจ และให้กำลังใจผู้เสียหายในเหตุการณ์นี้ “หนุ่ม กรรชัย” และ “กันจอมพลัง” ร่วมฟ้องผู้เสียหาย ฟ้อง “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” แสดงจุดยืนแข็งกร้าว พร้อมยืนยัน พร้อมต้อนรับ “บอสพอล” หากอยากขึ้นแสดงสด ขณะเดียวกัน “บอย ปกรณ์”…

คุณตาวัย 71 ขุดหลุมลึก 40 เมตรในห้องครัว หลังฝันว่ามีทองคำใต้ดิน

มีหลายคนที่เชื่อความฝันของตัวเองเป็นตุเป็นตะจนเก็บมาอินในชีวิตจริง แต่จะมีสักกี่คนที่ลงทุนลงแรงเพื่อความฝันของตัวเองแบบนี้ นี่คือเรื่องราวของ ฌูเวา พิเมนตา ดา ซิลวา คุณตาชาวบราซิลวัย 71 ปี ที่ฝันว่ามีทองคำอยู่ใต้บ้านของเขา และสิ่งที่เขาต้องทำก็คือการขุดเพื่อให้ได้มันมา นอกจากนั้นเขายังเล่าเรื่องความฝันให้กับเพื่อน แม้ว่าจะถูกหัวเราะเยาะในตอนแรก แต่ดาซิลวาก็สามารถโน้มน้าวให้ชายเพื่อนบ้านมาช่วยขุดดินได้ แต่โชคร้ายที่คุณตาวัย 71 ปีพลาดตกลงไปในหลุมที่ลึกถึง 40 เมตร ในขณะที่กำลังปีนขึ้นมาข้างบน ตามคำกล่าวของ อันโตนิโอ คอสตา เพื่อนบ้านที่มาช่วยคุณตาขุดหลุมอ้างว่า ชายชราพยายามกำจัดน้ำและโคลนที่ก้นหลุมออกแต่ก็พลาดตกลงไป ทั้งคู่วิดน้ำออกจากหลุมไปหลายถัง แต่คุณตาต้องการลงไปตรวจสอบบางสิ่งด้วยตัวเอง ในขณะที่คอสตากำลังหย่อนคุณตาลงไป จู่ ๆ คุณตาก็ขอให้ดึงตนเองกลับขึ้นมา ซึ่งในจังหวะนั้นเองเป็นคุณตาได้หลุดจากอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายชิงช้า…

ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง! เปิดจุดบอสพอลซ่อนเครื่องดักฟังนักร้องรีดเงิน

“ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง!” คือคำมั่นสัญญาที่เป็นหัวใจของภารกิจในครั้งนี้ เพื่อเปิดโปงเบื้องหลังของบอสพอลที่ใช้วิธีการซ่อนเครื่องดักฟังนักร้อง หวังจะรีดไถเงินจากพวกเขา การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแค่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนถึงการหาผลประโยชน์บนความทุกข์ของผู้อื่น การที่ทีมงานเดินหน้าเปิดโปงแผนนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ความยุติธรรมแก่เหยื่อเท่านั้น แต่ยังเพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความมุ่งมั่นในการยืนหยัดเคียงข้างและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง “หันหลัง!” ถือเป็นความมุ่งมั่นที่สำคัญในภารกิจนี้ในการเปิดเผยความจริงเบื้องหลังพฤติกรรมของบอสพอลที่แอบวางอุปกรณ์ดักฟังบนนักร้องเพื่อแบล็กเมล์พวกเขา การกระทำนี้ไม่เพียงแต่ละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการแสวงหาผลประโยชน์จากความ ทุกข์ทรมานของผู้อื่นด้วย ความมุ่งมั่นของทีมงานที่จะนำความจริงมาเปิดเผยไม่เพียงแต่เพื่อนำความยุติธรรมมาสู่ผู้เสียหายเท่านั้น แต่ยังเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความแน่วแน่ในการยืนหยัดเพื่อปกป้องและไม่ทอดทิ้งใคร

กฤษอนงค์ โต้ตบทรัพย์ 10 ล้าน ลั่น ‘โจรธานอส’ จะเอาทุกคนตายพร้อมมัน

การที่ใครสักคนสามารถหลอกคนได้เป็นจำนวนมากถึงหลักแสนคน ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย เพราะการจะทำให้ผู้คนหลงเชื่อได้นั้นต้องใช้ทั้งความฉลาดหลักแหลมและการวางแผนอย่างแยบยล ทั้งยังต้องมีความเข้าใจในจิตวิทยาของผู้คนอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ การที่มีใครบางคนสามารถหลอกลวงผู้คนได้มากถึงหลักแสนคน ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยทีเดียว เพราะการทำให้ผู้คนหลงเชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงนั้น ต้องอาศัยทั้งความเฉลียวฉลาด ความสามารถในการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ และทักษะในการโน้มน้าวใจ อย่างแยบยล นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจจิตวิทยาของผู้คนอย่างลึกซึ้ง รู้ว่าจะเล่นกับความรู้สึกและความเชื่อของพวกเขาได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่ไม่ใช่ทุกคนจะมี และเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำเช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ยากจะทำตาม

หมวกกันน็อคป้องกันการโกงข้อสอบในไทยกลายเป็นเทรนด์ออนไลน์

หลายปีที่ผ่านมา เคยมีกระแสบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับ “หมวกป้องกันการโกงข้อสอบ” ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศจีน ฟิลิปปินส์ หรือแม้แต่ในไทยเอง และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีกระแสเกี่ยวกับหมวกป้องกันโกงข้อสอบเกิดขึ้นอีกครั้ง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐบาดังกัส วิทยาเขตโลโบ ทางตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาผ่านหมวกป้องกันการโกงข้อสอบ ที่เกิดขึ้นในช่วงการสอบกลางภาคที่ผ่านมา แองเจโล เอโบรา อาจารย์ภาควิชาเกษตรกรรมของนักศึกษาเหล่านี้ได้แชร์ภาพถ่ายที่กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วบนเฟสบุ๊กส่วนตัวของเขาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม สิ่งที่เราเห็นก็คือ ความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาที่กลายเป็นตัวละครจากอนิเมะเรื่องต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี นอกจากนั้น เขายังสนับสนุนให้นักเรียนพยายามออกแบบหมวกภายใต้ธีมการเกษตรอีกด้วย แองเจโลกล่าวว่า เขาขอให้นักศึกษาสวมหมวกป้องกันการโกงข้อสอบเพราะต้องการ “ลดความเครียดของนักศึกษาระหว่างสอบ” ถึงแม้มันจะไม่ได้ช่วยป้องกันการโกงข้อสอบได้อย่างสมบูรณ์ แต่มันเป็นเหมือนการเตือนให้นักศึกษาทราบถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์ในระบบการศึกษา สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ผู้ที่สวมหมวกจะได้รับคะแนนสอบเพิ่มอีก…

ไฟลามทุ่ง! ลากไส้นักตบทรัพย์ “บอสพอล” “บิ๊กเต่า” บุกสวรรค์ลากคอเทวดาเข้าคุก

ในขณะที่สังคมยังไม่ทันหายตกใจกับเรื่องราวการฉ้อโกงและทุจริตที่เกิดขึ้นในวงการธุรกิจออนไลน์ ชื่อของ “บอสพอล” กลับถูกกล่าวถึงอีกครั้ง ในฐานะนักตบทรัพย์ที่กำลังถูกเปิดโปงอย่างหนัก เมื่อ “บิ๊กเต่า” เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายชั้นแนวหน้าได้ลงมือปฏิบัติการบุกจับกุมอย่างเป็นทางการ ภารกิจครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการตามลากไส้ผู้กระทำความผิด แต่ยังเสมือนการบุกขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อดึงเทวดาที่เคยได้รับความเคารพออกมาเผชิญหน้ากับความจริง “บอสพอล” กับข้อกล่าวหาหนักหน่วง “บอสพอล” บุคคลที่เคยได้รับการยกย่องในฐานะนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกี่ยวกับการตบทรัพย์และฉ้อโกง หลายฝ่ายมองว่าเขาได้ใช้สถานะของตนในการหลอกลวงผู้คนและแสวงหาผลประโยชน์จากความไว้วางใจของผู้ร่วมธุรกิจและนักลงทุน การกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายทั้งทางการเงินและภาพลักษณ์ของวงการธุรกิจดิจิทัลในประเทศอย่างมาก “บิ๊กเต่า” ผู้ปฏิบัติการลากคอ “บิ๊กเต่า” เจ้าหน้าที่ผู้มีความมุ่งมั่นในการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามการทุจริต ได้แสดงบทบาทสำคัญในภารกิจครั้งนี้ ด้วยการบุกเข้าค้นพื้นที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับ “บอสพอล” และทีมงาน ไม่เพียงแค่การสืบสวนที่ครอบคลุม แต่ยังรวมถึงการรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น การจับกุม “บอสพอล” และการเปิดโปงเครือข่ายนักตบทรัพย์ครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการขุดค้นความจริงในเชิงลึก…

เปิดความสัมพันธ์ “บอสกันต์ – บอสพอล” ส่องอาณาจักรพันล้านเจ้าพ่อออนไลน์ | ลุยชนข่าว

ในวงการธุรกิจออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันที่เข้มข้น สองชื่อที่ไม่สามารถมองข้ามได้คือ “บอสกันต์” และ “บอสพอล” สองเจ้าพ่อแห่งวงการที่ก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญในโลกธุรกิจดิจิทัล ด้วยอาณาจักรพันล้านที่ทั้งคู่ได้สร้างขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่าง “บอสกันต์” และ “บอสพอล” จึงเป็นที่จับตามองของสังคมธุรกิจและสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด “บอสกันต์” และ “บอสพอล” ไม่ได้เป็นเพียงแค่คู่แข่งหรือเพื่อนร่วมอาชีพในแวดวงธุรกิจออนไลน์เท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในฐานะเพื่อนสนิทที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองในการทำธุรกิจ ทั้งสองมีวิสัยทัศน์ที่คล้ายคลึงกันในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และขยายฐานลูกค้า ทำให้ความร่วมมือระหว่างพวกเขาสร้างผลกระทบอย่างมากต่อวงการดิจิทัล หากมองเข้าไปในอาณาจักรธุรกิจของ “บอสกันต์” และ “บอสพอล” จะพบว่าอาณาจักรเหล่านี้เต็มไปด้วยศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ ธุรกิจของพวกเขาครอบคลุมไปทั้งแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ การตลาดดิจิทัล และการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีอนาคตไกล การขยายตัวของอาณาจักรนี้ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีการขยายฐานไปยังต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของทั้งสองคน ด้วยบทบาทที่สำคัญในวงการ “บอสกันต์”…

“เฮียฮ้อรักศิลปินทุกคนเหมือนลูก” ใบเตย เปิดเคล็ดลับเฮียฮ้อปั้นศิลปินให้โด่งดังได้อย่างไร? ไปฟัง…

“เฮียฮ้อรักศิลปินทุกคนเหมือนลูก” เป็นคำพูดของ “ใบเตย” ที่พูดถึงความเอาใจใส่และการดูแลของเฮียฮ้อ (สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) ผู้บริหารใหญ่แห่งค่ายเพลง RS ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงไทยมานาน การที่เฮียฮ้อปั้นศิลปินให้โด่งดังนั้นเกิดจากหลายปัจจัยและกลยุทธ์ที่ช่วยผลักดันศิลปินให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งรวมถึง: การเข้าใจตลาดและผู้ฟัง: เฮียฮ้อมีความเข้าใจในความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้สามารถพัฒนาผลงานศิลปินให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้ การดูแลและพัฒนาศิลปิน: เฮียฮ้อให้ความสำคัญกับการพัฒนาศิลปินทั้งในด้านทักษะและบุคลิกภาพ มีการฝึกฝนเพื่อให้ศิลปินสามารถแสดงออกได้ดีทั้งในเวทีและสื่อสังคม การสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง: เฮียฮ้อมีความสามารถในการสร้างแบรนด์ให้กับศิลปิน ทำให้ศิลปินมีเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำของผู้ฟัง การสนับสนุนด้านการตลาดและโปรโมชัน: การโปรโมตที่มีประสิทธิภาพในสื่อต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ศิลปินของเฮียฮ้อเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในวงกว้าง การดูแลศิลปินอย่างใกล้ชิดและทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวก็เป็นเคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้ศิลปินสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในวงการบันเทิง

สัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ที่สามารถยกของที่หนักกว่าตัวเองได้ถึง 1,180 เท่า

สำหรับมนุษย์เรา ความสามารถในการยกน้ำหนักอาจมากกว่าน้ำหนักตัวประมาณ 2 เท่า ซึ่งนั่นก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว แต่ถ้าไปเทียบกับสัตว์ตัวเล็ก ๆ ชนิดอื่นล่ะก็ มนุษย์เราถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอมาก ตัวอย่างเช่น มดแดง (Asian Weaver Ant) ที่สามารถยกน้ำหนักได้มากกว่าตัวเอง 10 เท่า ในขณะที่ด้วงมูลสัตว์ (Dung Beetle) หรือแมงกุดจี่ สามารถน้ำหนักได้มากถึง 400 เท่าของน้ำหนักตัว ถ้าเปรียบเทียบเป็นมนุษย์ก็สามารถยกของหนักได้หลายสิบตัน เปรียบได้กับเป็นซูเปอร์แมนเลยทีเดียว แต่เหนือกว่ามดแดงหรือแมงกุดจี่ ก็ยังมีแมลงอีกชนิดหนึ่งที่มีพละกำลังเหนือกว่านั้นมากนัก ไรออริบาติด (Oribatid Mite) เป็นแมลงที่มีขนาดจิ๋วที่มีรูปร่างคล้ายด้วง ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก…